วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

นกแห่งสันติภาพ






ฉันขอส่งมอบนกน้อยตัวนี้


ให้โบยบินสู่เมืองสยาม เมืองแห่งรอยยิ้ม


ให้นำพาความสุข สันติมาสถิตอยู่ในใจคนไทยทุกคน



(นกตัวนี้เกิดขึ้นจากโปรเจคหนึ่งที่เย็บอย่างไรก็ได้ให้ผ้า130x130 ให้เหลือ20x20
แต่ตอนนี้มันใหญ่มาก ใหญ่คับพื้นที่ของหัวใจเลยทีเดียว:)

หมู่บ้านแอปเปิ้ล


สองเดือนที่ผ่านมาบนดินแดนกลางน้ำอันหนาวเย็นนี้

อาจเรียกได้ว่าไม่ห่างไกลจากการภาวนาตามวิถีหมู่บ้านพลัมที่เคยได้สัมผัสมา

ขอเรียกเป็นหมู่บ้านแอปเปิ้ลแทนแล้วกันเนอะ



ฉันสัมผัสรอยยิ้มของคนที่นี่ คนในหมู่บ้านที่มีไม่มากนัก

ฉันสัมผัสถึงความรัก ความอบอุ่น

ฉันสัมผัสถึงธรรมชาติอันงดงาม

ฉันได้เดินวิถีแห่งสติในแปลงผักหรือสวนดอกไม้ยามฉันว่าง

หายใจเข้า....

และหายใจออก...

เบิกบานกับงานอย่างมีสติ

มากบ้าง

น้อยบ้าง

หลุดหลงไปกับความคิดเบื้องหลังและเบื้องหน้าบ้าง

เสียงนกร้องทำให้ฉันกลับมาสู่บ้านอันแท้จริง

ชี่กง โยคะ รำกระบอง และขี่จักรยาน

พิจารณาอาหารในแต่ละมื้อ
(เป็นความโชคดีที่อาหารที่นี่มีมังสวิติ ที่มีไข่และนม
และการฟังภาษาเค้าไม่ค่อยออก ทำให้ฉันได้มีเวลาได้กินอาหารอย่างมีสติมากขึ้น:)

ดื่มชาและกินขนม (บางทีสติก็กระเจิงเพราะความอร่อยจัด)

ได้สนทนา และแบ่งปันความรู้สึกที่มี



ขอบคุณที่ฉันยังมีชีวิตอยู่

และขอบคุณที่เธอยังคงได้รับรอยยิ้มของฉันเช่นกัน.....

แอดวานซ์


ขอบอก
ว่าพี่สาวชั้นแอดวานซ์มาก
นอนละเมอเป็นภาษาอังกฤษ
เข้าใจละ ว่าจะพูดเก่งได้ต้องทำแบบนี้ หึหึ ;o

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เพียงได้แต่เป็นสาวน้อยที่ยังคงทอผ้า


การทอพรมผืนยาวๆ ทำให้เราไม่เคยได้เห็นภาพรวมของทั้งหมดว่ามันเป็นอย่างไร

เห็นเพียงแต่ผ้าบนหน้ากี่เท่านั้น

อยากจะชื่นชมในความสวยก็ไม่ได้ อยากจะรื้อมาแก้ไขก็ไม่ได้

บางทีมันอาจกำลังให้เห็นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น

จุดหมายไม่ใช่สิ่งสำคัญอันใด

การกระแทกฟันหวีหนึ่งครั้ง บางครั้งความแรงของมันยังไม่ทำให้เรารู้สึกตัวว่ากำลังอยู่ตรงนี้

การพุ่งเส้นด้ายแต่ละครั้ง เต็มไปด้วยความคิดสู่อดีตและอนาคตมากมาย

บางครั้งเหนื่อย ผ้าที่ทอจึงออกมาหลวม

บางครั้งหงุดหงิด ผ้าจึงออกมาแน่น

หลายหลายเรื่องราวบนผืนผ้าผืนนี้


แต่ใครเล่าจะรู้

…..


ถ้ามิได้กำลังอยู่ในปัจจุบัน