วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2551
สองคำแรกที่เรียนรู้
i m o r g e n (อี-ม่อ-ร่อน) พรุ่งนี้
ขอบคุณ :) จานพิมที่ทำให้บทเรียนน่าสนใจขึ้นมาก555
svenska
อา เบ เซ เด เอ เอฟ เก โฮ อี ยี โค แอล เอ็ม
N O P Q R S T U V W X Y Z
เอ็น อู เป คิว แอร์ เอส เต อิว เว ดุบเบลเว อิกซ์ อีย์ แซตต้า
๐ . . . .
A A O
โอ แอ เออ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ett tva tre fyra fem sex sju atta nyu tyu
เอ็ท โทว เทรย์ ฟี่ร่า เฟม เซ็ค (ชคู) โอตตะ หนิว ทิ๋ว
วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2551
this too will pass
ในอดีตมีพระราชาผู้ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรฮีบรูพระนามว่าโซโลมอน
พระราชาได้สั่งให้เจ้าเมืองทุกเมืองทำของวิเศษให้อย่างหนึ่ง
โดยของสิ่งนั้นต้องมีคุณสมบัติวิเศษคือ....
ของสิ่งนี้จะสามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกของพระราชาได้
หากมีความทุกข์อยู่ก็จะหายจากทุกข์
หากมีความสุขอยู่ก็จะคลายความสุขลง
ไม่ว่ากำลังร้องไห้อยู่หรือหัวเราะอยู่ ก็จะสามารถหยุดอารมณ์ทั้งสองอย่างได้
เมื่อครบกำหนด เจ้าเมืองใหญ่เมืองใดๆก็ไม่สามารถหาของตามที่พระราชาต้องการได้
แต่มีเจ้าเมืองเล็กๆ อยู่เมืองหนึ่งได้บอกว่ามีแหวนวิเศษ
มีคุณสมบัติอย่างที่พระราชาต้องการมาถวาย พระราชาจึงรีบให้มาเข้าเฝ้า
เมื่อพระราชาได้เห็นแหวนวงนั้นแล้ว ปรากฎว่าเป็นแหวนทองเรียบๆวงหนึ่ง
พระราชาก็สงสัยว่าแหวนนี้จะมีความวิเศษได้อย่างไรกัน
เมื่อพระราชานำไปใช้ก็ปรากฎว่าแหวนวงนี้
สามารถเปลี่ยนอารมณ์ของพระองค์ได้จริงๆ
ไม่ว่าพระองค์จะกำลังมีความทุกข์หรือความสุขอยู่ก็ตาม
เพียงเพราะว่าแหวนวงนั้นมีข้อความสั้นๆ สลักไว้ว่า
.....แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป
ยามใดที่พระราชามีความสุข ความยินดี หรือมีความทุกข์
ความโกรธ ความกังวลไม่สบายใจใดๆ ก็ตาม
เมื่อมองไปที่แหวนนี้ซึ่งเตือนสติพระองค์ว่า
.....แล้วสิ่งนั้นจะผ่านพ้นไป
ทำให้พระองค์เข้าใจว่า สิ่งที่พระองค์กำลังประสบอยู่ไม่ว่าสุขไม่ว่าทุกข์
มันไม่จีรังยั่งยืน เกิดขึ้นมาแล้วก็จากไป
นับแต่นั้นมา พระราชาก็ไม่คิดที่จะนำความทุกข์มากังวล
มีความสุขก็ไม่ได้ยึดติดกับความสุขนั้น
ทำให้พระราชาสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง
และตั้งหน้าตั้งตาทำเพื่อประชาชนของพระองค์
จนได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นที่รักใคร่ของประชาชน
ขอบคุณนิทาน :) ใบปลิวจากวัดสุนันทวนาราม
เพราะอะไร

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2551
The leaf of one tree

we are the leaf of one tree
วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2551
เธอคือดอกไม้
วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2551
กอดสมาธิ
เราอาจจะฝึกกอดสมาธิกับเพื่อน กับลูกสาว กับคุณพ่อ กับคนรัก หรือแม้แต่กับต้นไม้ ขั้นตอนในการกอดสมาธินั้นเริ่มต้นด้วยการไหว้ และตระหนักรู้ถึงการดำรงอยู่ ณ. ที่นี้ของกันและกัน จากนั้นเราสามารถเบิกบานกับการตระหนักรู้ถึงลมหายใจซักสามลมหายใจ เพื่อให้เราดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะอย่างเต็มเปี่ยม เมื่อพร้อมแล้วเราจึงกางแขนเปิดรับ และสวมกอดกันไว้สามลมหายใจ
ในลมหายใจแรก..เราตระหนักรู้ถึงการดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะของตนเอง และความสุขของเรา
ในลมหายใจที่สอง...เราตระหนักรู้ถึงการดำรงอยู่ของอีกฝ่ายหนึ่งในปัจจุบันขณะ และนั่นทำให้เรามีความสุขเช่นเดียวกัน
จากนั้นเราคลายแขนออก และไหว้กันและกันเพื่อแสดงความขอบคุณ
การกอดกันในลักษณะนี้จะทำให้ผู้ที่เรากอดรู้สึกนั้นดำรงอยู่อย่างแท้จริงและมีชีวิตชีวา เราไม่จำเป็นต้องรอจนถึงเวลาที่ต้องแยกจากกันเพื่อฝึกปฏิบัติการกอดสมาธิกัน เราสามารถกอดกันเดี๋ยวนี้ เพื่อรับความอบอุ่น ความมั่นคงจากเพื่อนของเราได้ในทันทีในปัจจุบันขณะ การกอดสมาธิอาจถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติเพื่อปรับความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ในขณะที่เรากอดกันในความเงียบ ความในใจของเราอาจปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนว่า "ที่รัก เธอมีค่าสำหรับฉันมาก ฉันขอโทษที่ฉันเคยขาดสติและไม่เอาใจใส่เธอ ฉันผิดไปแล้ว โปรดให้โอกาสฉันได้เริ่มต้นใหม่ด้วยเถิด ฉันขอสัญญา"
ศีล16

....
แต่อะไรล่ะ คือ "ศีล16"
ในใจพยายามค้นหาคำตอบ
ศีล5 ศีล8 ศีล10 ศีล227 นั่นคือสิ่งที่เคยเรียนมา
เอ...หรือจะเป็นศีล5 ศีล14 แบบฉบับหมู่บ้านพลัม
แล้วอะไรล่ะ คือ "ศีล16"
หรือถ้าไม่คิดไรมาก บางทีอาจเป็นเลขตรงๆของหวยงวดนี้!!!
....
....
วันคืนผ่านไป ผ่านไปหลายความฝัน และผ่านไปหลายความตื่น
จนได้ไปวัดป้าสุนันทวนาราม แบบงงๆๆ ไม่ทันได้ตั้งตัว และไม่รู้ว่าไปทำไร รู้แต่ว่าเป็นผู้นำทางหรือเป็นผู้ขับรถไปนั่นเอง
ไปก็พบกับแม่ชี ได้ลงทะเบียนเข้า ก็ถึงได้รู้ว่านี่คือการเข้าเหมือนกับการภาวนา ก็ได้จัดแจงจะนำสัมภาระเข้าห้อง
จนมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้อง.......
......
ไม่มีกุญแจ...
แต่มันสามารถไขได้...
ไขปัญหาที่ค้างคาในความฝันนั้น
เข้าใจแล้ว....คำตอบมันอยู่ตรงหน้า...มันเป็นเช่นนี้เอง
วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2551
ความรู้สึก
วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2551
ถักทอ

เมื่อนึกถึงการทอ ใครต่อหลายคนคงนึกว่ามันจำเป็นจะต้องเกิดจากด้ายหลากหลายเส้นมาร้อยเรียงต่อกัน
แต่ความจริงไม่ว่าอะไรก็สามารถนำมาทอได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นไม้ หนัง กระดาษ ยาง เศษผ้า พริก..
หรือแม้แต่คำพูดเรายังสามารถเรียงร้อยหรือทอมันขึ้นมาได้
มิฉะนั้นคงไม่มีคำว่าร้อยแก้วร้อยกรอง หรือคำว่าด่าทอแน่ๆ
สิ่งสำคัญของการทอจึงไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่นำมาทอ ไม่ได้อยู่ที่สิ่งสำเร็จที่ออกมาเป็นผืน เป็นแผ่น เป็นบท หรือเป็นบาท
แต่ "คุณค่าของมัน เกิดขึ้นในระหว่างที่เราถักและเราทอ"......ฉันเชื่ออย่างนั้น